กองทัพไทยเตือนใช้สิทธิ์ป้องกันตนเอง หลังทหารบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดชายแดนกัมพูชา
กองทัพบกไทยออกแถลงการณ์เตือนใช้สิทธิ์ป้องกันตนเอง หลังทหารได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดใกล้ชายแดนกัมพูชา เป็นครั้งที่ 4 ในรอบเดือน ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น

ทหารไทยลาดตระเวนบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ใกล้ปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์
กองทัพบกไทยออกแถลงการณ์เตือนว่าอาจต้องใช้สิทธิ์ในการป้องกันตนเองตามกฎหมายระหว่างประเทศ หลังเกิดเหตุทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดใกล้ชายแดนกัมพูชา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ครั้งที่ 4 ในรอบหนึ่งเดือน
เหตุการณ์ล่าสุดสะท้อนความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น
พลตรี วินไทย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จ่าทหารนายหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ข้อเท้าซ้าย หลังเหยียบกับระเบิดสังหารบุคคลขณะลาดตระเวนพร้อมกำลังพล 7 นาย บริเวณใกล้ปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทั้งสองประเทศต่างอ้างสิทธิ์
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาตึงเครียดมากขึ้น โดยก่อนหน้านี้เพียง 4 วัน มีทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด 3 นาย หนึ่งในนั้นสูญเสียเท้าซ้าย
การละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
กองทัพบกไทยระบุว่า เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานชัดเจนที่แสดงให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และไม่เคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาออตตาวาที่ห้ามการใช้และวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งทั้งสองประเทศเป็นภาคี
ความตึงเครียดนี้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระดับภูมิภาคในกลุ่มอาเซียน และกระทบต่อความมั่นคงตามแนวชายแดน
การปฏิเสธจากฝ่ายกัมพูชา
ด้านโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา พลโท มาลี โสเชตา ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยยืนยันว่ากัมพูชาไม่เคยใช้ ผลิต หรือวางทุ่นระเบิดใหม่ภายใต้สถานการณ์ใดๆ และยึดมั่นในพันธกรณีระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
Samart Payakaroon
นักข่าวสายเสรีนิยมที่ติดตามการเมือง เศรษฐกิจ และสิทธิเสรีภาพในประเทศไทย เขาเขียนด้วยมุมมองอิสระ ชัดเจน และกล้าหาญ