ติมอร์-เลสเตพบศูนย์คอลเซ็นเตอร์หลอกลวงขยายตัว UN เตือนภัย
UNODC เปิดเผยการขยายตัวของศูนย์คอลเซ็นเตอร์หลอกลวงในติมอร์-เลสเต พร้อมเตือนภัยการเชื่อมโยงกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ท่ามกลางการเตรียมเข้าร่วมอาเซียน

ศูนย์คอลเซ็นเตอร์หลอกลวงในติมอร์-เลสเตที่ถูกทางการบุกทลาย
สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) เปิดเผยรายงานล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พบการขยายตัวของศูนย์คอลเซ็นเตอร์หลอกลวงในติมอร์-เลสเต โดยมีความเชื่อมโยงกับเขตการค้าเสรีแห่งใหม่ในประเทศ
ปรากฏการณ์ที่น่ากังวลในภูมิภาค
ศูนย์หลอกลวงเหล่านี้ได้แพร่กระจายทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และขยายวงกว้างไปทั่วโลก โดยมักตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในการหลอกเหยื่อ ซึ่งสร้างความเสียหายนับหมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นใน กัมพูชาและประเทศเพื่อนบ้าน
การจับกุมครั้งล่าสุดในติมอร์-เลสเต
เมื่อปลายเดือนสิงหาคม ตำรวจได้บุกทลายศูนย์ต้องสงสัยในเขตปกครองพิเศษเอกูซี (Oecusse) จับกุมชาวต่างชาติกว่า 30 คนที่ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบด้วยชาวอินโดนีเซีย มาเลเซีย และจีน ซึ่งสอดคล้องกับรูปแบบที่พบใน ภูมิภาคที่ต้องเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจ
ความเชื่อมโยงกับองค์กรอาชญากรรม
UNODC ยังพบบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายคาสิโนในกัมพูชา และมีความสัมพันธ์กับผู้นำแก๊ง 14K Triad ที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นใน การยกระดับธรรมาภิบาลและต่อต้านองค์กรอาชญากรรม
ผลกระทบต่อภูมิภาค
ติมอร์-เลสเตกำลังจะเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนในเดือนตุลาคมนี้ ท่ามกลางความกังวลว่าการเชื่อมต่อที่เพิ่มขึ้นอาจถูกใช้เป็นช่องทางในการขยายเครือข่ายอาชญากรรม ขณะที่หลายประเทศในภูมิภาคเร่งปราบปรามปัญหานี้อย่างจริงจัง
Samart Payakaroon
นักข่าวสายเสรีนิยมที่ติดตามการเมือง เศรษฐกิจ และสิทธิเสรีภาพในประเทศไทย เขาเขียนด้วยมุมมองอิสระ ชัดเจน และกล้าหาญ